วิกฤติหุ้นวัน Corner แตก 

หุ้นในตลาดหลักทรัพย์จำนวนมาก โดยเฉพาะที่เป็นหุ้นขนาดเล็ก น่าจะเป็นหุ้นที่ผมเรียกว่า "อยู่ใน Corner" คือเป็นหุ้นที่ถูกซื้อโดยนักลงทุน โดยเฉพาะที่เป็น "รายใหญ่" ทำให้เหลือหุ้นจำนวนน้อยที่ "ถูกต้อนเข้ามุม" และหลังจากนั้นราคาก็มักจะขึ้นไปแรงมาก บางทีเป็นหลายๆ เท่าตัว หุ้นที่อยู่ใน Corner นั้นไม่ช้าก็เร็วก็จะตกลงมาแรงมาก แล้วกลับมาสู่ราคาพื้นฐานที่ควรจะเป็น และวันที่เป็นจุดเริ่มที่จะ "แตก" มีหลายๆ วันดังต่อไปนี้ วันแรกคือ วันประกาศผลประกอบการ โดยเฉพาะผลประกอบการประจำปีของบริษัท ถ้าผลประกอบการยังเติบโตดี ราคาหุ้นก็มักจะวิ่งต่อไป แต่ถ้ากำไรตกฮวบ ราคาหุ้นก็มักจะตกลงมาอย่างแรงและอาจจะทำให้ Corner "แตก" ได้ และสิ่งเลวร้ายที่สุดที่อาจเกิดขึ้นก็คือ คนที่ใช้มาร์จินในการซื้อหุ้นจำนวนมาก ซึ่งรวมไปถึงนักลงทุนรายใหญ่ที่เป็นคน Corner หุ้นเอง ต้องถูกบังคับให้ขาย ซึ่งจะทำให้หุ้นตกแบบ "หายนะ" ได้ วันที่สองที่น่ากลัวมากยิ่งกว่าวันแรกก็คือ วันที่มีการเปิดเผยว่ามี "Fraud" หรือการโกง หรือการหลอกลวงในบริษัทที่ทำโดยผู้บริหารหรือผู้ถือหุ้นใหญ่ ซึ่งเป็นเรื่องร้ายแรงและผิดกฎหมาย เมื่อข่าวออกมา นักเล่นหุ้นก็จะตกใจและขายหุ้นทิ้งจนทำให้หุ้นที่ราคาสูงลิ่วตกลงมาแบบ "หายนะ" หลายบริษัทก็อาจจะล้มละลายไปในที่สุด วันที่สามที่น่ากลัวและมักทำให้ Corner แตกอย่างเป็นระบบก็คือ การเกิดวิกฤติการเงิน เศรษฐกิจ และตลาดหุ้น การเกิดวิกฤตินั้นทำให้คนกลัวและขาดความมั่นใจในการลงทุนในหุ้น ดังนั้นพวกเขามักจะขายหุ้นทุกราคาโดยเฉพาะหุ้นที่ขึ้นไปสูงมากอย่างหุ้นใน Corner วันสุดท้ายที่ Corner อาจจะแตก ก็คือวันที่คนทำ Corner เองตัดสินใจขายหุ้นทำกำไรอย่างรวดเร็วเกินไป จนราคาหุ้น "ถล่ม" ซึ่งเหตุผลที่ขายก็อาจจะเป็นเพราะเกรงว่ากลุ่มอื่นที่ "ร่วมกันทำ" อาจจะชิงขายก่อน เพราะไม่แน่ใจว่า Corner ของหุ้นจะอยู่ได้อีกนานแค่ไหน

Published date
: Sep 05, 2025
Publisher
: ซีเอ็ดยูเคชั่น
Category
Page
: 257
Rating
:

Available
Only 1 more copies!

MARC Information
020 a : ISBN 
9786160848782 
050 a : a - Classification number 
 
245 a : Title 
วิกฤติหุ้นวัน Corner แตก 
300 a : Total pages 
257 
520 a : Description 
หุ้นในตลาดหลักทรัพย์จำนวนมาก โดยเฉพาะที่เป็นหุ้นขนาดเล็ก น่าจะเป็นหุ้นที่ผมเรียกว่า "อยู่ใน Corner" คือเป็นหุ้นที่ถูกซื้อโดยนักลงทุน โดยเฉพาะที่เป็น "รายใหญ่" ทำให้เหลือหุ้นจำนวนน้อยที่ "ถูกต้อนเข้ามุม" และหลังจากนั้นราคาก็มักจะขึ้นไปแรงมาก บางทีเป็นหลายๆ เท่าตัว หุ้นที่อยู่ใน Corner นั้นไม่ช้าก็เร็วก็จะตกลงมาแรงมาก แล้วกลับมาสู่ราคาพื้นฐานที่ควรจะเป็น และวันที่เป็นจุดเริ่มที่จะ "แตก" มีหลายๆ วันดังต่อไปนี้ วันแรกคือ วันประกาศผลประกอบการ โดยเฉพาะผลประกอบการประจำปีของบริษัท ถ้าผลประกอบการยังเติบโตดี ราคาหุ้นก็มักจะวิ่งต่อไป แต่ถ้ากำไรตกฮวบ ราคาหุ้นก็มักจะตกลงมาอย่างแรงและอาจจะทำให้ Corner "แตก" ได้ และสิ่งเลวร้ายที่สุดที่อาจเกิดขึ้นก็คือ คนที่ใช้มาร์จินในการซื้อหุ้นจำนวนมาก ซึ่งรวมไปถึงนักลงทุนรายใหญ่ที่เป็นคน Corner หุ้นเอง ต้องถูกบังคับให้ขาย ซึ่งจะทำให้หุ้นตกแบบ "หายนะ" ได้ วันที่สองที่น่ากลัวมากยิ่งกว่าวันแรกก็คือ วันที่มีการเปิดเผยว่ามี "Fraud" หรือการโกง หรือการหลอกลวงในบริษัทที่ทำโดยผู้บริหารหรือผู้ถือหุ้นใหญ่ ซึ่งเป็นเรื่องร้ายแรงและผิดกฎหมาย เมื่อข่าวออกมา นักเล่นหุ้นก็จะตกใจและขายหุ้นทิ้งจนทำให้หุ้นที่ราคาสูงลิ่วตกลงมาแบบ "หายนะ" หลายบริษัทก็อาจจะล้มละลายไปในที่สุด วันที่สามที่น่ากลัวและมักทำให้ Corner แตกอย่างเป็นระบบก็คือ การเกิดวิกฤติการเงิน เศรษฐกิจ และตลาดหุ้น การเกิดวิกฤตินั้นทำให้คนกลัวและขาดความมั่นใจในการลงทุนในหุ้น ดังนั้นพวกเขามักจะขายหุ้นทุกราคาโดยเฉพาะหุ้นที่ขึ้นไปสูงมากอย่างหุ้นใน Corner วันสุดท้ายที่ Corner อาจจะแตก ก็คือวันที่คนทำ Corner เองตัดสินใจขายหุ้นทำกำไรอย่างรวดเร็วเกินไป จนราคาหุ้น "ถล่ม" ซึ่งเหตุผลที่ขายก็อาจจะเป็นเพราะเกรงว่ากลุ่มอื่นที่ "ร่วมกันทำ" อาจจะชิงขายก่อน เพราะไม่แน่ใจว่า Corner ของหุ้นจะอยู่ได้อีกนานแค่ไหน 
No Reviews
There are no reviews yet, why not be the first.

Please Login before write a review.