ไข่มุกมหาภัย ได้รับคำชมว่าเป็นงานประพันธ์ชิ้นเล็กๆ ที่ยอดเยี่ยม จากการเลือกใช้ถ้อยคำที่เรียบง่าย ทว่าสวยงาม บทสนทนามีความบริสุทธิ์ เปิดเผยและตรงไปตรงมา รวมทั้งการประพันธ์ของจุดคลี่คลายต่างๆ อย่างชำนาญการ ทั้งหมดนี้เป็นลักษณะของ จอห์น สไตน์เบค (John Steinbeck) นักเขียนที่ได้รับการนิยามว่าเป็นบุคคลที่มีความเข้าใจอะไรอย่างลึกซึ้ง และมีปัญญาในด้านการสังเกตการณ์อันเป็นลักษณะที่เด่นที่สุดของกวีผู้ซึ่งเป็นกวีอันแท้จริง ไข่มุกมหาภัย เล่าเรื่องราวชีวิตครอบครัวของชาวประมงผู้ยากจน ซึ่งประสบโชคมหาศาลจากการพบไข่มุกอันหาค่ามิได้ แต่ในที่สุด...กลับกลายเป็นโชคที่นำเอาความวิบัติมาสู่ครอบครัวเล็กๆ จนต้องสูญเสียทุกอย่างไปหมดสิ้น ไม่เว้นแม้กระทั่งชีวิตของลูกน้อยผู้น่าสงสาร

ผลงานลำดับที่ 8 ของชาร์ลส์ ดิคเก้นส์ นักประพันธ์ชาวอังกฤษ นับเป็นนวนิยายเล่มโปรดของเขาเองอีกด้วย โดยเนื้อเรื่องส่วนใหญ่เป็นชีวิตจริงของตัวเขาเอง เรื่องราวการต่อสู้ชีวิตและความเด็ดเดี่ยวของเด็กชายผู้กำพร้าพ่อ ทว่าอบอุ่นด้วยความรักจากแม่และสาวใช้ที่แสนจงรักภักดี ชีวิตของเขาต้องผ่านร้อน ผ่านหนาว ผ่านทุกข์ และ (กว่าจะได้พบ) เจอความสุขในบั้นปลาย เขาคือ เดวิด คอปเปอร์ฟิลด์ (David Copperfield) และทั้งหมดนี้คือเรื่องราวในชีวิตที่เขาถ่ายทอดออกมาเอง...

ในยุคที่มีทั้งเว็บไซต์และเว็บบล็อกเป็นพื้นที่แสดงผลงานของนักอยากเขียน รวมถึงเป็นเวทีแจ้งเกิดของนักเขียนรุ่นใหม่จำนวนมาก หลายคนจึงคิดว่าการเป็นนักเขียนนั้นง่าย ใครๆ ก็เป็นได้ถ้าฟุ้งเก่งและกดแป้นพิมพ์เป็น แต่นวนิยายเชิงอัตชีวประวัติของ "ประชาคม ลุนาชัย" เล่มนี้ อาจทำให้ผู้อ่านเกิดความสงสัยว่า เส้นทางนักเขียนมันธุรกันดารถึงเพียงนี้เชียวหรือ?... จากเด็กหนุ่มแดนอีสาน มุ่งหน้ามาล่าฝันที่เมืองหลวงเฉกเช่นเด็กต่างจังหวัดทั่วไป แต่เพราะขาดแคลนทั้งเงิน ความรู้ ญาติมิตร และโชค เขาจึงต้องมีอาชีพที่ไม่เคยใฝ่ฝัน ทั้งลูกจ้างร้านอาหาร คนงานโรงงาน รับจ้างเฝ้าวังกุ้ง ทำไร่ ติดเรือประมง เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย และอีกมากมาย แต่ระหว่างนั้น ความฝันที่จะเป็นนักเขียนเหมือนไฟคุกรุ่นที่เติมเชื้อเพลิงให้ชีวิตเขาอยู่เสมอ อาจจะริบหรี่บ้างแต่ไม่เคยมอดดับ... กว่าความฝันของประชาคมจะเป็นจริงได้ เขาต้องพานพบกับบททดสอบอะไรบ้าง? และเขาผ่านมันมาได้อย่างไร? หลากหลายเรื่องราวของเขาในเล่มนี้ เต็มเปี่ยมไปด้วยแรงดลใจ สำหรับคนที่คิดจะก้าวเดินไปบนเส้นทางวรรณกรรมซึ่งขรุขระคดเคี้ยว และสำหรับใครก็ตามที่คิดจะไต่ฝันของตัวเองไปให้ถึงที่สุดเท่าที่กำลังใจและกำลังแรงจะพาไปถึงได้

เมื่อ "แบร์รี่ แฟร์บราเทอร์" ตายลงอย่างกะทันหันในวัยสี่สิบต้นๆ เมืองเล็กๆ ในประเทศอังกฤษที่ชื่อ "แพ็กฟอร์ด" ก็ตกอยู่ในอาการขวัญผวา... แพ็กฟอร์ดนั้น ดูเผินๆ เหมือนว่าจะเป็นชนบทอังกฤษที่แสนสุข มีสี่แยกปูลาดด้วยหินอยู่ตรงตลาดและมีโบสถ์โบราณ แต่เบื้องหลังของฉากหน้านั้น นี่เป็นเมืองแห่งสงคราม คนรวยทำสงครามกับคนจน วัยรุ่นทำสงครามกับพ่อแม่ ภรรยากับสามี ครูกับนักเรียน... แพ็กฟอร์ดไม่ได้เป็นอย่างที่เห็นในตอนแรก และที่นั่งในสภาฯ ที่ว่างลงเพราะการจากไปของแบร์รี่นั้น จะกลายเป็นชนวนของสงครามใหญ่สุดที่เมืองนี้เคยมีมา... ใครจะเป็นผู้ได้ชัยในการเลือกตั้งที่เปี่ยมด้วยความกระหาย การตีสองหน้า และการเปิดโปงที่คาดไม่ถึง!?!... นี่คือ นวนิยายเรื่องแรกจากนักเขียนก้องโลก "J.K. Rowling" กับเรื่องราวที่จะบีบคั้นหัวใจคุณได้อย่างรุนแรง ล้ำลึก และนำความประหลาดใจมาให้ผู้อ่านครั้งแล้วครั้งเล่า...

"ปานบัว" ก็เหมือนผู้หญิงหลายคนที่ตัดสินใจแต่งงานกับชายคนรักแล้วย้ายไปใช้ชีวิตคู่ร่วมกันที่บ้านของฝ่ายชาย เธอยอมทิ้งหน้าที่การงานในเมืองหลวง อยู่ห่างจากครอบครัวของตนเอง เพื่อความรักที่เธอเชื่อมั่นศรัทธา เธอเชื่อว่าความรักที่เขาและเธอมีให้กันจะช่วยให้พวกเขาข้ามผ่านอุปสรรคใดๆ ก็ตามไปได้ แต่แล้วหลายสิ่งที่เกิดขึ้นก็กลับเริ่มทำให้เธอตั้งคำถามกับความเชื่อมั่นของตนเอง เส้นทางความรักของปานบัวจะเป็นอย่างไร มีอะไรซ่อนอยู่หลังอุโมงค์ดอกไม้ในงานแต่งงานของเธอวันนั้น ติดตามหาคำตอบพร้อมกันได้ในเล่ม

ศึกสึกเสน่หา นวนิยายชิ้นเยี่ยมที่สะท้อนความเป็นจริงของพุทธศาสนิกชนในเมืองไทย กล่าวถึงคนที่เพิ่งผละจากผ้าเหลืองแล้วเลือกที่จะนำตัวเองเข้าสู่พลังแห่งตัณหา และเมื่อสร้างปัญหาแก่สังคมก็ใช้ศาสนาเป็นเครื่องกลบเกลื่อน ตรงข้ามกับพุทธบริษัทบางคนที่ใฝ่ธรรมะมากกว่าสังคมสงฆ์เสียอีก เนื้อเรื่องเล่าถึง “ท่านไพ” อดีตเจ้าอาวาสวัดแห่งหนึ่งที่ไปชอบพอสาวชาวบ้าน ท่ามกลางคำครหาว่าครอบครัวของฝ่ายหญิงนั่นแหละที่ยั่วยวนจนพระสึก แต่หลังจากท่านไพลาสิกขาออกมาแต่งงาน ท่านไพกลับนำพรรคพวกไปตัดไผ่ป่าและไม้อนุรักษ์เสียจนเฮี้ยน ดัดแปลงตาน้ำตรงไปยังบ่อเลี้ยงปลาของตนจนชาวบ้านไม่มีน้ำใช้ วางยาสุนัขที่ไล่เห่าจนตาย เล่นการพนันในงานศพ ชอบล่าเนื้อเต่ามาย่างไฟกิน ทั้งปลาในลำธารอื่นก็มีแผลเหวะหวะเนื่องจากพ่นยาฆ่าแมลงทิ้งไว้ เรื่องราวยิ่งเลวร้ายเมื่อท่านไพเปิดร้านอาหารตามสั่งก่อนจะพัฒนาเป็นร้านเหล้า ซ้ำยังเปลี่ยนกิจการของตนเป็นหอพักสำหรับวัยรุ่นอารมณ์เปลี่ยว ก่อนที่ตำรวจจะบุกเข้าไปจับนักศึกษาที่มั่วสุม จนเรื่องราวฉาวโฉ่ว่าท่านไพเคยก่อคดีไว้มากมาย นับเป็นนวนิยายที่กล่าวถึง “พฤติกรรม-ความเชื่อ” ที่สวนทางกับพระธรรมคำสอนของพุทธศาสนา จากฝีมือการเขียนของ “ชิด ชยากร” นักเขียนมือรางวัลที่เคยฝากผลงานไว้มากมาย ทั้งการประกวดเรื่องสั้น นวนิยายและบทกวี อาทิ รางวัลรองชนะเลิศพานแว่นฟ้า ประเภทเรื่องสั้น (หลายวาระ) รางวัลเรื่องสั้น “รู้เก็บ รู้ใช้” ของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ชนะเลิศรางวัลนวนิยายประเภทสืบสวนสอบสวนนานมีบุ๊คส์อวอร์ด และรองชนะเลิศอันดับ 2 รางวัลเซเว่นบุ๊คอวอร์ดประเภทวรรณกรรมสำหรับเยาวชนเมื่อปี 2552

"รองเท้าที่หายไป" เป็นเรื่องราวของ "หนูอิ่ม" เด็กหญิงวัย 12 ซึ่งเติบโตในเมืองหลวงและโลกสมัยใหม่... หนูอิ่มไม่เข้าใจว่าทำไมคุณพ่อจะต้องพาคุณปู่มาอยู่ด้วย ก็คุณปู่ทั้งแก่ ทั้งหลงลืม แถมยังเป็นอัมพฤกษ์ ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ ทว่าตั้งแต่คุณปู่ก็ช็อกหมดสติ ต้องเข้าโรงพยาบาลไป หนูอิ่มก็พบ "อาเล้ง" วิญญาณของเด็กชายตัวจ้อยที่โผล่ร่างออกมาจากรองเท้าเกี๊ยะสีแดงข้างหนึ่งในห้องคุณปู่ เพื่อตามหา "ไหน่ฮวย" ซึ่งไม่รู้ว่าเป็นใคร แล้วหนูอิ่มก็ต้องท่องไปในความฝันเกี่ยวกับชีวิตของอาเล้ง เพื่อตามหาไหน่ฮวยให้พบ... นวนิยายอบอุ่นเล่มนี้จะพาผู้อ่านย้อนอดีตไปดูชีวิตของอาเล้งที่อยู่มาตั้งแต่สมัยสงครามโลกครั้งที่สอง จนกระทั่งเป็นผู้เฒ่าชราเลี้ยงหลานสาวคนเดียวอย่างทนุถนอม เรียกสติให้ต้องหันไปใส่ใจดูแลผู้ชราในครอบครัวอีกครั้ง

มองเตคริสโต (Monte Cristo) บทประพันธ์จากปลายปากกาของอเล็กซานเดอร์ ดูมาส์ วรรณกรรมที่แฝงไว้ด้วยคุณธรรมอันล้ำลึกระหว่างคุณความดีกับความเลวร้ายเรื่องนี้ กล่าวถึง เอ็ดมันด์ ดังเต้ส์ ชายหนุ่มผู้ซึ่งกำลังมีอนาคตยาวไกลในหน้าที่การงาน แต่ต้องประสบเคราะห์กรรมถูกจับขณะที่กำลังจะเข้าพิธีวิวาห์กับสาวคนรัก เขาต้องทนทุกข์ทรมานอยู่ในคุกนานนับแรมปี เพราะความเห็นแก่ตัวของคนบางคนที่ยัดเยียดข้อหาทั้งๆ ที่เขาปราศจากมลทินใดๆ ด้วยความอดทน กล้าหาญ และเด็ดเดี่ยว ทำให้ดังเต้ส์รอดพ้นความตายมาได้ พร้อมกับโชคชะตาที่เพื่อนร่วมชะตากรรมในคุกลิขิตให้...อะไร? คือแรงผลักดันให้เขาต้องการมีชีวิตอยู่และต่อสู้ให้ถึงที่สุด เพื่อนำเอาความสุขซึ่งได้ถูกพรากไปกลับคืนมา

พระจันทร์ทะเลทราย เล่มนี้ เป็นนวนิยายของ "คุณประภัสสร เสวิกุล" ศิลปินแห่งชาติ สาขาวรรณศิลป์ ตีพิมพ์ซ้ำเป็นครั้งที่ 4 โดยตีพิมพ์ครั้งแรกในปี พ.ศ. 2547 ได้รับรางวัลชมเชย ประเภทนวนิยาย จากคณะกรรมการพัฒนาหนังสือแห่งชาติ พ.ศ.2547 มีครบทุกรส ทั้งการผจญภัยในทะเลทรายที่เต็มไปด้วยความลึกลับเหนือคำบรรยาย ความรักของตัวละคร การแก่งแย่งอำนาจ และข้อคิดในการดำเนินชีวิต

"ผีน้อยโลกมายา" เล่มนี้ได้รับรางวัลชมเชยในการประกวดวรรณกรรมเยาวชนรางวัลพระราชทาน แว่นแก้ว ประจำปี 2544 เป็นเรื่องราวที่เล่าถึงโลกมนุษย์ที่ผสมปนเปไปด้วยคนดีและคนไม่ดี เช่นเดียวกับโลกของผีที่มีทั้งผีดีและผีชั่วร้าย ต่างแต่ว่าโลกของผีสามารถแบ่งแยกดี-ร้ายได้อย่างชัดเจน ขณะที่โลกมนุษย์ยากจะตัดสินว่าใครดีใครไม่ดี และยิ่งยากขึ้นไปใหญ่เมื่อมนุษย์ตัดสินคนจากภายนอกจากสิ่งที่ตนเห็น มองผีว่าเป็นสิ่งที่น่ากลัว มองเด็กกำพร้าที่พ่อแม่ตายด้วยโลกเอดส์ว่าเป็นเด็กที่น่ารังเกียจ โดยไม่ได้มองให้ลึกซึ้งถึงคุณค่าที่ซ่อนอยู่ภายใน ทำให้เกิดโศกนาฏกรรมที่ไม่น่าจะเกิดขึ้น แล้วคุณจะได้ข้อคิดดีๆจากเรื่องนี้อย่างมากเลยที่เดียว

ปลายฝน เล่มนี้ จะพาเด็กๆ ไปสัมผัสกับเรื่องราวของเด็กกำพร้าที่อยู่บ้านเด็กกำพร้า แต่ถูกส่งไปอยู่กับครอบครัวหนึ่งเพื่อช่วยเป็นพี่เลี้ยงให้เด็กอีกคนหนึ่ง แต่ในขณะเดียวกันก็เพื่อทดสอบว่า เด็กจะสามารถทำให้ครอบครัวนั้นรับเป็นลูกบุญธรรมได้หรือไม่ ตัวละครเอกคือ เด็กหญิงปลายฝน ซึ่งคงลักษณะซุกซน และความสดใสตามวัยไว้ได้ครบถ้วน

บุกบาดาล (A Journey to the Centre of the Earth) หนึ่งในบทประพันธ์ของ จูลส์ เวิร์น เขียนขึ้นในปี ค.ศ. 1864 (ก่อนเรื่อง ใต้ทะเล 20,000 โยชน์ เขียนขึ้นในปี ค.ศ. 1870 และ 80 วันรอบโลก เขียนขึ้นในปี ค.ศ. 1873) บุกบาดาล เรื่องราวของพิภพใต้โลกที่ถูกถามว่ามีอยู่จริงหรือ? มนุษย์เราจะสามารถลงไปสู่ยังกลางใจโลก โดยที่ยังมีชีวิตอยู่ได้หรือไม่? การเดินทางและการผจญภัยอันน่าตื่นเต้นได้ถูกนำเข้ามาผสมผสานกัน จนทำให้นวนิยายเล่มนี้เป็นที่นิยมแพร่หลายในหมู่นักอ่านที่สนใจสิ่งที่อาจเป็นไปได้เกี่ยวกับเรื่องของวิทยาศาสตร์