หนังสือแนวเศรษฐศาสตร์สำหรับคนทั่วไป ชุด โลกนี้ไม่มีอะไรฟรี ภาค 1 ทำความรู้จักว่าเศรษฐศาสตร์คือไร โดยนำเสนอเศรษฐศาสตร์รอบตัว เพื่อยืนยันว่าเศรษฐศาสตร์ไม่ยากเกินความเข้าใจ

โลกนี้ไม่มีอะไรฟรี ภาค 2 นำเสนอกฎและหลักสำคัญของเศรษฐศาสตร์ในการดำเนินชีวิต เพื่อให้ตระหนักถึงคุณค่าของสิ่งที่ได้มาเป็นอย่างสูง

โลกนี้ไม่มีอะไรฟรี ภาค 3 มองเศรษฐศาสตร์อย่างไม่ซ้ำซาก สำหรับนักอ่านทุกระดับ ปรับเนื้อหาให้เข้าใจในระดับพื้นฐาน เน้นย้ำแง่มุมของความคิดและความเข้าใจโดยไม่ติดกับกฎ "โลกนี้ไม่มีอะไรฟรี" อย่างเดียว

ขาดทุนคือกำไร (โลกนี้ไม่มีอะไรฟรี ภาค 4) ยังย้ำหลักอธิบายเศรษฐศาสตร์ให้อ่านง่าย เล่มนี้ครอบคลุมไปถึงการใช้เงินในระดับบุคคลที่จะทำให้ "รวย" ตลอดชีวิต และเศรษฐศาสตร์สมัยใหม่ศึกษาพฤติกรรมมนุษย์

ถูกสุดคือแพงสุด (โลกนี้ไม่มีอะไรฟรี ภาค 5) เน้นการวิเคราะห์พฤติกรรมมนุษย์ จิตวิทยา และความเข้าใจทางเศรษฐศาสตร์

ศาสตร์แห่งความหดหู่และสิ้นหวัง (โลกนี้ไม่มีอะไรฟรี ภาค 6) ตอกย้ำหลักเศรษฐศาสตร์ที่ว่าทุกอย่างต้องมีต้นทุน จะได้อะไรมาสักอย่างต้องเอาบางสิ่งหรือหลายสิ่งแลกเสมอ

สนุกกับของไม่ฟรี (โลกนี้ไม่มีอะไรฟรี ภาค 7) แจกแจงให้เห็นจะจะว่าของที่ได้มาฟรีๆ นั้นฟรีจริงหรือ? ทำความเข้าใจและเข้าถึงหลักเศรษฐศาสตร์อย่างลึกซึ้ง แล้วจะรู้ว่าแม้แต่มิตรภาพที่ได้มายังต้องลงทุน

เงินทองของมายา (โลกนี้ไม่มีอะไรฟรี ภาค 8) รับมือภาวะเศรษฐกิจตกด้วยการปรับตัวด้วยหลักเศรษฐศาสตร์ในชีวิตประจำวัน

ราคาคือของจริง (โลกนี้ไม่มีอะไรฟรี ภาค 9) เพราะชีวิตเป็นเรื่องของการเลือก ทุกเส้นทางชีวิตมีต้นทุนควบคู่ไปเสมอ ผู้เขียนตั้งใจใช้ "ราคาคือของจริง" เพื่อเน้นให้เห็นความหมาย ว่าทุกสิ่งในโลกนี้มี "ต้นทุน" หรือ "ราคา" จะได้สิ่งใดมาต้องเอาบางสิ่งไปแลกเสมอ

รวยเงินจริง รู้เงินแสร้ง (โลกนี้ไม่มีอะไรฟรี ภาค 10) เสนอวิธีคิดเกี่ยวกับการเพิ่มพูนทรัพย์สินเงินทองอย่างถูกต้องยั่งยืน รู้เท่าทันกลลวงทางการเงิน เชื่อมต่อหลักเศรษฐศาสตร์กับวิถีชีวิตส่วนตัวไปจนถึงนโยบายบริหารประเทศ รวมถึงการวิเคราะห์สถานการณ์เศรษฐกิจ-สังคมระดับโลกจากเหตุการณ์สำคัญ ๆ ในแต่ละประเทศ

แนวคิดหลากมุม หมุนไปตามแกนโลก ปฏิกิริยา สะท้อนของกูรูเศรษฐศาสตร์ไทยต่อเศiษฐกิจและ การเมือง ในห้วงปี 2547-48 ประเด็น ความเห็นทางเศรษฐกิจและการเมืองเกิดขึ้นเป็นระยะ ๆ อยู่ตลอดเวลา จึงเป็นโอกาสให้ "คนเดินตรอก" ได้เก็บมาขบคิดไปตามกระแสของเหตุการณ์ต่าง ๆ หลายอย่าง เพราะโลกไม่เคยหยุดนิ่ง แต่หมุนเวียนเปลี่ยนตามกาลเวลา เมื่อเวลาผ่านไป บางอย่างก็เป็นไปอย่างที่คิดที่เขียนไว้นี้บางอย่างก็ไม่เป็นไปตามที่คิดที่ เขียนไว้ ปี 2547 และ 2548 จึงเป็นปีที่เป็นหัวเลี้ยวหัวต่อของบ้านเรา ทั้งในด้านเศรษฐกิจ การเมือง และสังคม ซึ่งมีผลต่อวิถีชีวิตและความรู้สึกนึกคิดของพวกเราเป็นอย่างมาก ข้อเขียนที่ฝากไว้ในหนังสือเล่มนี้คงสะท้อนปฏิกิริยาโต้ตอบต่อเหตุการณ์ต่าง ๆ ของผู้เขียนอย่างดี ซึ่งอาจจะขัดหูขัดตาของท่านผู้อื่นอยู่บ้างไม่มากก็น้อยเป็นของธรรมดา

รวมบทจากคอลัมน์ “คนเดินตรอก” ในหนังสือพิมพ์ประชาชาติธุรกิจ วิเคราะห์เศรษฐกิจและการเมืองในช่วงปีที่ผ่านมา เหมือนเล่มก่อนๆ ที่เคยพิมพ์มา เช่น ฟังแต่ยังไม่เชื่อ โลกใบนี้ไม่มีหยุด ฯลฯ เขียนด้วยภาษาแบบนักวิชาการถอดสูท ไม่ต้องปีนกระไดอ่าน ชัดเจน เข้าใจ และแนบท้ายด้วยเรื่องราวเกี่ยวกับเมืองต่างๆ ที่เคยเดินทางไป ในรูปแบบสารคดีบันทึกในรอยทาง อ่านสบายๆ และได้ความรู้ของเมืองนั้นๆ รวมบทจากคอลัมน์ “คนเดินตรอก” ในหนังสือพิมพ์ประชาชาติธุรกิจ วิเคราะห์เศรษฐกิจและการเมืองในช่วงปีที่ผ่านมา เหมือนเล่มก่อนๆ ที่เคยพิมพ์มา เช่น ฟังแต่ยังไม่เชื่อ โลกใบนี้ไม่มีหยุด ฯลฯ เขียนด้วยภาษาแบบนักวิชาการถอดสูท ไม่ต้องปีนกระไดอ่าน ชัดเจน เข้าใจ และแนบท้ายด้วยเรื่องราวเกี่ยวกับเมืองต่างๆ ที่เคยเดินทางไป ในรูปแบบสารคดีบันทึกในรอยทาง อ่านสบายๆ และได้ความรู้ของเมืองนั้นๆ